หน้านี้มีเคล็ดลับมากมายที่คุณสามารถนำไปใช้เพื่อปกป้องบัญชี Stripe ของคุณ ซึ่งจะเท่ากับเป็นการปกป้องข้อมูลของคุณและเงินจำนวนใดๆ ที่อาจมีในบัญชีดังกล่าวด้วย

เพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของบัญชีคุณ

• เพิ่มปัจจัยสำหรับการตรวจสอบสิทธิ์เผื่อในกรณีที่คุณสูญเสียปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไป

  • ตัวอย่างเช่น ในกรณีที่เพิ่มทั้งคีย์ความปลอดภัยและโทรศัพท์ ถึงแม้ว่าจะทำโทรศัพท์หาย คุณก็จะยังสามารถลงชื่อเข้าใช้ได้ตามเดิม

• หากคุณใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ขั้นตอน ให้เก็บรักษารหัสสำรองของคุณไว้ในที่ที่ปลอดภัย

  • รหัสดังกล่าวสามารถช่วยให้คุณกู้คืนการเข้าถึงบัญชีได้ ในกรณีที่อุปกรณ์สำหรับการตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ขั้นตอนทั้งหมดที่เชื่อมกับบัญชีของคุณสูญหาย

• อย่าให้ผู้อื่นทราบข้อมูลเข้าสู่ระบบ Stripe ของคุณโดยเด็ดขาด

  • หากจำเป็นต้องให้หลายคนเข้าถึงบัญชีของคุณ ให้เชิญอีกฝ่ายมาเป็นสมาชิกทีมโดยดำเนินการได้ในการตั้งค่า

• ตั้งค่า Touch ID/Windows Hello หากทำได้

  • คุณสามารถลงชื่อเข้าใช้ Stripe โดยใช้ลายนิ้วมือหรือเทคโนโลยีรู้จำใบหน้าบนอุปกรณ์ที่รองรับได้ เพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่รวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

• หากคุณเป็นผู้ดูแลจัดการทีม คุณสามารถกำหนดให้ทุกคนในทีมใช้การตรวจสอบสิทธิ์แบบ 2 ขั้นตอนได้ที่หน้าการตั้งค่าทีม

  • การดำเนินการเช่นนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าทุกคนในทีมปฏิบัติตามหลักปฏิบัติที่ดีที่สุดด้านการรักษาความปลอดภัย

ปกป้องตัวคุณเองจากการโจมตีแบบฟิชชิ่งที่พบได้ทั่วไป

• ลงชื่อเข้าใช้ Stripe โดยเข้าเว็บไซต์ผ่านบุ๊กมาร์กเพื่อหลีกเลี่ยงการฟิชชิ่ง

  • เว็บไซต์ที่เป็นฟิชชิ่งจะปลอมเป็นเว็บไซต์จริงเพื่อเข้าถึงข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณ ตั้งบุ๊กมาร์กหน้าเข้าสู่ระบบ Stripe นี้ไว้ แล้วเข้าเว็บไซต์ผ่านบุ๊กมาร์กดังกล่าวเท่านั้นเมื่อต้องการลงชื่อเข้าใช้

• หากคุณใช้คอมพิวเตอร์ร่วมกับผู้อื่น อย่าลืมลงชื่อออกทุกครั้งที่ใช้งานเสร็จแล้ว

  • การลงชื่อออกทุกครั้งจะช่วยให้บัญชีของคุณปลอดภัยจากผู้อื่นที่ใช้อุปกรณ์เดียวกับคุณ

• อย่าคลิกลิงก์หากอีเมลที่ส่งมาดูน่าสงสัย

  • บางครั้งมิจฉาชีพจะส่งอีเมลที่มีลิงก์ฟิชชิ่งและทำทีว่าเป็นอีเมลจาก Stripe ตั้งบุ๊กมาร์กหน้านี้ไว้ แล้วใช้ลิงก์ที่บุ๊กมาร์กไว้เท่านั้นเมื่อต้องการลงชื่อเข้าใช้ เพื่อหลีกเลี่ยงการฟิชชิ่ง

• ตรวจดู URL เพื่อให้มั่นใจว่าคุณกำลังลงชื่อเข้าใช้ dashboard.stripe.com

  • การโจมตีแบบฟิชชิ่งมักจะใช้เว็บไซต์ปลอมเพื่อเข้าถึงข้อมูลเข้าสู่ระบบของคุณ เช่น ผู้โจมตีอาจใช้ URL ที่สะกดผิด

• ติดตั้งส่วนขยายเบราว์เซอร์จากบริษัทที่คุณไว้วางใจเท่านั้น

  • ส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่ประสงค์ร้ายสามารถบุกรุกการรักษาความปลอดภัยของคุณได้โดยการอ่านรหัสผ่าน