การตรวจสอบสิทธิ์เจ้าของบัตรโดยใช้ 3D Secure

ดูข้อมูลเกี่ยวกับ 3D Secure ซึ่งเป็นระบบการตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่าเจ้าของบัตรตัวจริงเป็นผู้ซื้อเอง

ผู้ค้าออนไลน์ทั่วโลกที่มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ใช้ 3DS ในขั้นตอนการชำระเงินเพื่อยืนยันตัวตนผู้ซื้อให้ตรงกับเจ้าของบัตร

ขั้นตอน 3D Secure เพิ่มเติมในการชำระเงินมักจะรวมถึงการแสดงหน้าการตรวจสอบสิทธิ์ในเว็บไซต์ของธนาคารให้กับเจ้าของบัตร ซึ่งจะแจ้งเตือนให้พวกเขาป้อนรหัสการยืนยันที่ส่งไปยังโทรศัพท์หรืออีเมลของตน ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่ผู้ถือบัตรคุ้นเคยอยู่แล้วภายใต้ชื่อแบรนด์เครือข่ายบัตรต่างๆ เช่น Visa Secure และ Mastercard Identity Check

ตัวอย่างขั้นตอน 3D Secure

ขั้นตอนที่ 1 ลูกค้าป้อนรายละเอียดของบัตร

ขั้นตอนที่ 2 ธนาคารของลูกค้าประเมินคำขอและสามารถดำเนินการ 3D Secure ให้เสร็จสิ้นได้ในขั้นตอนนี้

ขั้นตอนที่ 3 ลูกค้าจะต้องดำเนินการตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมให้เสร็จสิ้น หากธนาคารของลูกค้ากำหนดไว้

กรณีใดที่จะมีการเรียกใช้ 3D Secure

Stripe (ผู้ให้บริการที่แพลตฟอร์มของคุณจับมือเป็นพาร์ทเนอร์เพื่อให้บริการชำระเงินที่ปลอดภัย) จะทริกเกอร์ 3DS โดยอัตโนมัติ หากข้อบังคับในการกำกับดูแล (เช่น การตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุม) กำหนดไว้

ระเบียบข้อบังคับว่าด้วยการตรวจสอบสิทธิ์ลูกค้าแบบรัดกุมในยุโรปกำหนดให้การชำระเงินด้วยบัตรต้องมีการใช้ 3D Secure แม้ภูมิภาคอื่นจะไม่บังคับให้ใช้ 3D Secure แต่ก็ยังนำมาใช้เพื่อลดอัตราการฉ้อโกงได้

หากคุณไม่แน่ใจว่ามีการเปิดใช้ 3DS ในบัญชีของคุณไว้หรือไม่ โปรดติดต่อแพลตฟอร์มของคุณ

การชำระเงินที่โต้แย้งและการโอนความรับผิด

การโอนความรับผิดจะครอบคลุมการชำระเงินที่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ 3D Secure สำเร็จแล้ว หากเจ้าของบัตรโต้แย้งว่าการชำระเงินที่ใช้ 3D Secure นั้นเป็นการฉ้อโกง ในกรณีนี้จะเป็นการโอนความรับผิดของคุณไปยังบริษัทผู้ออกบัตรแทน การโต้แย้งการชำระเงินประเภทนี้จะได้รับการจัดการเป็นการภายใน กล่าวคือ จะไม่ปรากฏให้คุณเห็นและไม่ส่งผลให้เกิดการหักเงินจากบัญชีของคุณ

หมายเหตุ: หากลูกค้าโต้แย้งการชำระเงินด้วยเหตุผลอื่น (ตัวอย่างเช่น ไม่ได้รับสินค้า) จะใช้ขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงินแบบมาตรฐาน ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรตัดสินใจเกี่ยวกับธุรกิจอย่างเหมาะสม รวมถึงวิธีจัดการเมื่อมีการโต้แย้งการชำระเงินและวิธีหลีกเลี่ยงการโต้แย้งการชำระเงินโดยสิ้นเชิง

การโอนความรับผิดอาจเกิดขึ้นเมื่อเครือข่ายบัตรกำหนดให้ใช้ 3DS แต่บัตรหรือบริษัทผู้ออกบัตรไม่สามารถใช้งาน 3DS ได้ กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ หากเซิร์ฟเวอร์ 3DS ของบริษัทผู้ออกบัตรหยุดทำงานหรือบริษัทผู้ออกบัตรไม่รองรับ 3DS แม้ว่าเครือข่ายบัตรจะกำหนดให้รองรับขั้นตอนดังกล่าวก็ตาม เจ้าของบัตรจะไม่ได้รับการแจ้งเตือนให้ดำเนินการยืนยันตัวตนแบบ 3DS ให้เสร็จสิ้นในขั้นตอนการชำระเงิน เนื่องจากไม่ได้ลงทะเบียนบัตรดังกล่าว แม้ว่าเจ้าของบัตรจะไม่ได้ดำเนินการยืนยันตัวตนแบบ 3DS ให้เสร็จสิ้น แต่จะยังคงมีการโอนความรับผิดไปยังบริษัทผู้ออกบัตร

การชำระเงินที่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ 3DS สำเร็จแล้วจะไม่มีการโอนความรับผิดในบางครั้ง กรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้ไม่บ่อยนัก ตัวอย่างเช่น หากบัญชีของคุณมีระดับการฉ้อโกงเกินเกณฑ์ที่กำหนดและอยู่ในโปรแกรมตรวจสอบการฉ้อโกง นอกจากนี้ บางเครือข่ายยังยกเว้นการโอนความรับผิดให้กับอุตสาหกรรมบางประเภท ตัวอย่างเช่น Visa ไม่รองรับการโอนความรับผิดสำหรับธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการโอนเงินผ่านธนาคารหรือบริการธนาณัติ องค์กรที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงินที่ให้บริการสกุลเงินต่างประเทศหรือสกุลเงินที่ไม่ใช่เงินตรา หรือบริการซื้อหรือเติมเงินบัตรชำระล่วงหน้า

แม้ว่าเจ้าของบัตรจะไม่สามารถโต้แย้งว่าการชำระเงินที่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ 3DS สำเร็จแล้วเป็นการฉ้อโกงด้วยการดึงเงินคืนที่เป็นการดำเนินการทางการเงินได้โดยตรง แต่บริษัทผู้ออกบัตรอาจเริ่มต้นการขอให้ตรวจสอบข้อมูลการโต้แย้งการชำระเงินได้ การโต้แย้งการชำระเงินประเภทนี้ไม่ถือเป็นการดำเนินการทางการเงินและเป็นคำขอเพื่อสอบถามข้อมูลทั่วๆ ไป การตอบกลับคำขอให้ตรวจสอบข้อมูลเป็นสิ่งที่ควรทำสำหรับการเรียกเก็บเงินทุกรายการ แต่จะเป็นสิ่งที่ต้องทำหากการเรียกเก็บเงินนั้นได้รับการตรวจสอบสิทธิ์โดยใช้ 3D-Secure แล้ว แม้ว่าธนาคารเจ้าของบัตรจะไม่อนุญาตให้ส่งคำร้องขอดึงเงินคืนจากการฉ้อโกงที่เป็นการดำเนินการทางการเงินได้โดยตรง แต่ธนาคารก็ยังสามารถเริ่มต้นการดึงเงินคืนได้ หากผู้ค้าไม่ตอบกลับคำขอในการสอบถามข้อมูล หรือที่เรียกว่า การดึงเงินคืนสำหรับการเรียกเก็บเงินที่ไม่มีการตอบกลับ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินเพียงพอแล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการดึงเงินคืนสำหรับการเรียกเก็บเงิน 3DS ที่ไม่มีการตอบกลับ ซึ่งรวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่สั่งซื้อ วิธีการนำส่ง และผู้รับสินค้า/บริการ (ไม่ว่าคำสั่งซื้อดังกล่าวจะเป็นสินค้าจริง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ หรือบริการก็ตาม)