บัตรมาตรฐานกับบัตรพรีเมียมมีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง

บัตรในประเทศแบบมาตรฐาน ได้แก่ บัตรสำหรับผู้บริโภคทั่วไปที่ออกโดย Visa, Mastercard และผู้ให้บริการรายใหญ่อื่นๆ ส่วนบัตรในประเทศแบบพรีเมียม ได้แก่ บัตรสำหรับกิจการ องค์กร หรือธุรกิจที่ออกโดย Visa และ Mastercard Stripe จะกำหนดการจัดประเภทบัตรตามข้อมูลจากเครือข่ายบัตรเมื่อมีการหักยอด


หากธุรกิจของคุณตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) หรือในสหราชอาณาจักร ค่าบริการสำหรับบัตรที่ออกโดย Stripe จะมีความแตกต่างกันระหว่างบัตรในประเทศแบบมาตรฐานกับบัตรในประเทศแบบพรีเมียม

บัตรในประเทศแบบมาตรฐาน

บัตรในประเทศแบบพรีเมียม

ฉันจะรู้ได้อย่างไรว่าบัตรที่ลูกค้าใช้เป็นบัตรสำหรับกิจการ องค์กร หรือธุรกิจหรือไม่

ตามหลักปฏิบัติโดยทั่วไปแล้ว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่ใช่การซื้อสินค้าหรือบริการเพื่อใช้เป็นการส่วนตัวมักจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ทำรายการผ่านบัตรสำหรับกิจการ องค์กร หรือธุรกิจ ดังเช่นตัวอย่างบางส่วนด้านล่างนี้

Stripe มีวิธีหาคำตอบว่าบัตรใบหนึ่งๆ เป็นบัตรมาตรฐานหรือพรีเมียมอย่างไรบ้าง

เรานำข้อมูลที่ได้รับจากเครือข่ายบัตร ณ จุดที่ทำการหักยอดมาใช้พิจารณาประกอบว่าบัตรใบหนึ่งๆ เป็นบัตรมาตรฐานหรือพรีเมียม โดยตรวจสอบความแม่นยำของข้อมูลที่เชื่อมโยงนี้อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบจะคิดค่าธรรมเนียมที่ถูกต้องเหมาะสมให้กับธุรกรรมผ่านบัตรทุกรายการ

เขตเศรษฐกิจยุโรป (EEA) ประกอบด้วยออสเตรีย, เบลเยียม, บัลแกเรีย, โครเอเชีย, ไซปรัส, สาธารณรัฐเช็ก, เดนมาร์ก, เอสโตเนีย, ฟินแลนด์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, กรีซ, ฮังการี, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, อิตาลี, ลัตเวีย, ลิกเตนสไตน์, ลิทัวเนีย, ลักเซมเบิร์ก, มอลตา, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์, โปแลนด์, โปรตุเกส, โรมาเนีย, สโลวาเกีย, สโลวีเนีย, สเปน, สวีเดน