Tap to Pay ช่วยให้ผู้ใช้รับชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่จุดขายได้ด้วย Stripe Terminal SDK และอุปกรณ์ของผู้บริโภคที่ใช้งานร่วมกันได้ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยความคุ้นเคยกับ Terminal SDK และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับ Android หรือ iOS โปรดดูเอกสารประกอบการเชื่อมต่อการทำงานทางเทคนิคสำหรับ iOS ที่นี่ และเอกสารประกอบการผสานการทำงานทางเทคนิคสำหรับ Android ที่นี่
คุณจะดูรายชื่อประเทศที่สามารถใช้งาน Tap to Pay ได้ที่นี่ หรือในเอกสารประกอบทางเทคนิคตามลิงก์ข้างต้น
โปรดแจ้งให้เราทราบ หากต้องการใช้ Tap to Pay ในประเทศของคุณ ซึ่งยังไม่รองรับบริการนี้ เราจะแจ้งให้ทราบเมื่อประเทศที่คุณอาศัยอยู่สามารถใช้บริการได้
ดูข้อกำหนดด้านอุปกรณ์สำหรับการใช้ Tap to Pay on iPhone ได้ที่นี่
หมายเหตุ: iPad ไม่มีฟังก์ชันอ่าน NFC จึงยังไม่รองรับบริการในขณะนี้
ดูข้อกำหนดด้านอุปกรณ์สำหรับการใช้ Tap to Pay on Android ได้ที่นี่
ดูรายการอุปกรณ์ Android ที่รองรับพร้อม UI แบบกำหนดเองได้ที่นี่
ดูวิธีการชำระเงินที่เครื่องอ่านบัตรแต่ละรุ่นรองรับได้จากเอกสารประกอบที่นี่
โปรดไปที่หน้าค่าบริการของเราเพื่อดูค่าบริการปัจจุบัน
ใช่ ระบบจะระบุในแดชบอร์ดว่าธุรกรรมที่ใช้ Tap to Pay เป็นการชำระเงินแบบ "แสดงบัตร" เช่นเดียวกับธุรกรรมอื่นๆ ทุกรายการที่ดำเนินการผ่าน Terminal ในทำนองเดียวกันกับการใช้ Stripe Terminal ผู้ค้าที่ใช้ Tap to Pay เพื่อรับบัตรชำระเงินจะไม่ต้องรับผิดต่อการโต้แย้งการชำระเงินในประเภทที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงทุกรายการที่มีการยื่นเรื่องเข้ามาสำหรับธุรกรรมดังกล่าว
Stripe Terminal รวมทั้ง Tap to Pay มีระบบ E2EE อยู่แล้วตามค่าเริ่มต้น ผู้ใช้ที่ใช้ประโยชน์จาก Tap to Pay จะมีสิทธิ์เข้าถึงเอกสาร SAQ C ที่กรอกข้อมูลล่วงหน้าได้โดยตรงในแดชบอร์ดใต้ส่วนการตั้งค่าการปฏิบัติตามข้อกำหนด
หมายเหตุ: ระบบ P2PE ไม่รองรับการใช้งานร่วมกับ Tap to Pay
ระบบจะระบุในแดชบอร์ดว่าธุรกรรมที่ใช้ Tap to Pay เป็นการชำระเงินแบบ "แสดงบัตร" เช่นเดียวกับธุรกรรมอื่นๆ ทุกรายการที่ดำเนินการผ่าน Terminal ขณะนี้แดชบอร์ดของเรายังไม่มีฟังก์ชันในการแยกแยะธุรกรรมที่ใช้ Tap to Pay ออกจากการเรียกเก็บเงินแบบแสดงบัตรอื่นๆ ผู้ใช้จะยังมีสิทธิ์เข้าถึงฟังก์ชันในแดชบอร์ดแบบเดียวกันกับอุปกรณ์อื่นๆ เช่น การรายงาน การคืนเงิน ฯลฯ แต่จะไม่มีสิทธิ์เข้าถึงอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ ขณะนี้ระบบไม่สามารถติดตามอุปกรณ์ Tap to Pay ในแดชบอร์ดสำหรับการจัดการเครื่องอ่านบัตรได้
เรายังไม่มีฟังก์ชันดังกล่าวในขณะนี้
Tap to Pay on iPhone รองรับการยอมรับ PIN ใน Terminal iOS SDK ตั้งแต่เวอร์ชัน 2.23 ขึ้นไป
ขณะนี้ Tap to Pay on Android ยังไม่รองรับ PIN หากผู้ใช้พยายามจะเรียกเก็บเงินในจำนวนที่สูงกว่าขีดจำกัดการชำระเงินแบบไร้สัมผัส เจ้าของบัตรจะไม่สามารถส่ง PIN สำรองของบัญชีการชำระเงินเพื่อดำเนินการธุรกรรมดังกล่าวให้เสร็จสิ้นได้
ผู้ใช้สามารถสำรวจตัวเลือกสำรองต่างๆ เช่น การใช้เทอร์มินัลการชำระเงินแบบเดิมที่มีอยู่เป็นค่าเริ่มต้น หรือการแสดงรหัส QR และแจ้งให้ลูกค้าสแกน รวมถึงชำระเงินด้วยธุรกรรมแบบ CNP
เราได้ระบุขีดจำกัดการชำระเงินแบบไร้สัมผัสของแต่ละภูมิภาคไว้ที่หน้าการถามตอบของฝ่ายสนับสนุนเรียบร้อยแล้ว หมายเหตุ: โดยทั่วไปแล้วจะไม่มีขีดจำกัดการทำธุรกรรมสำหรับกระเป๋าเงินดิจิทัลอย่าง Apple Pay และ Google Pay
ลูกค้าไม่ได้ใช้วิธีการชำระเงินแบบไร้สัมผัสทุกคน ในกรณีนี้หรือกรณีที่ระบบปฏิเสธการชำระเงิน ผู้ใช้สามารถรับชำระเงินต่อไปได้โดยเปลี่ยนจาก Tap to Pay ไปใช้เครื่องอ่านบัตร Terminal อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้จะเชื่อมต่อเครื่องอ่านบัตรกับช่องทางการชำระเงินได้ครั้งละหนึ่งช่องทางเท่านั้น ดังนั้น หากเครื่องอ่านบัตรมีการเชื่อมต่ออยู่แล้ว คุณจะต้องยกเลิกการเชื่อมต่อก่อน
Tap to Pay จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี NFC ซึ่งแท็บเล็ตหลายรุ่นไม่มีเทคโนโลยีดังกล่าว
Tap to Pay on iPhone จะใช้งานบน iPad ไม่ได้เนื่องจากยังไม่รองรับ NFC ในขณะนี้
ส่วน Tap to Pay on Android ใช้งานได้บนแท็บเล็ต Android ที่มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดด้านอุปกรณ์ของเรา
โดยปกติแล้วชื่อเจ้าของบัตรจะไม่ปรากฏเมื่อชำระเงินแบบไร้สัมผัส โปรดไปที่ข้อมูลอ้างอิงเกี่ยวกับ API เพื่อทำความเข้าใจว่ามีรายละเอียดเฉพาะธุรกรรมใดบ้างสำหรับธุรกรรม Terminal ซึ่งรวมถึง Tap to Pay
จำเป็น ผู้ใช้จะต้องเชื่อมต่อการทำงานกับ Terminal SDK ให้เสร็จสิ้นก่อนจะเชื่อมต่อการทำงานกับ Tap to Pay หากต้องการรายละเอียดเฉพาะ โปรดดูเอกสารประกอบสำหรับ iOS หรือ Android
จำเป็น หากต้องการเข้าถึงฟังก์ชัน Tap to Pay ผู้ใช้จะต้องติดตั้ง SDK จำนวน 2 ชุด โดยเชื่อมต่อการทำงานกับ Terminal SDK ให้เสร็จสิ้นก่อนที่จะเชื่อมต่อการทำงานกับ SDK สำหรับ Tap to Pay หากต้องการรายละเอียดเฉพาะ โปรดดูเอกสารประกอบสำหรับ iOS หรือ Android
คุณสามารถรับชำระเงินผ่าน Tap to Pay ที่จุดขายได้โดยใช้แอป Stripe Dashboard
เราเก็บข้อมูล GPS เพื่อยืนยันตำแหน่งที่ตั้งระหว่างทำธุรกรรมผ่าน Terminal Tap to Pay จะใช้งานไม่ได้หากผู้ใช้ซื้ออุปกรณ์แล้วนำไปใช้ในพรมแดนอื่น ระบบของเราจะปฏิเสธธุรกรรมโดยอัตโนมัติหากตรวจพบว่ามีการใช้งานในประเทศใหม่ การใช้ฟีเจอร์นี้ไม่จำเป็นต้องมีการเชื่อมต่อการทำงานเพิ่มเติม
ได้ ขณะนี้ผู้ใช้สามารถจำลองขั้นตอนการรับชำระเงินภายในโปรแกรมจำลองของ iOS และ Android ได้
ได้ แอปพลิเคชันที่สร้างบน React Native รองรับ Tap to Pay แล้ว
จำเป็น Tap to Pay รองรับฟังก์ชันที่มีอยู่ของ Terminal สำหรับการบันทึกรายละเอียดของบัตรเพื่อนำไปใช้ซ้ำทางออนไลน์ในอนาคต ฟังก์ชันบันทึกบัตรใช้ได้กับบัตรจริงเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับกระเป๋าเงินบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้
การให้ทิปในเครื่องอ่านบัตร (ดู Stripe Docs ที่นี่) ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Tap to Pay ได้ ผู้ใช้สามารถนำหน้าจอให้ทิปของตนมาใช้ก่อนการรับชำระเงินได้ หรือจะนำขั้นตอนหลังการอนุมัติมาใช้เพื่อรับทิปก็ได้ (ดูขั้นตอนดังกล่าวที่นี่) โปรดทราบว่าการให้ทิปหลังการอนุมัติจะต้องทำให้เสร็จสิ้นภายใน 3 นาทีนับจากการรับชำระเงิน เนื่องจากฟังก์ชันนี้มีข้อจำกัด เราจึงแนะนำให้เสนอการให้ทิปก่อนรับชำระเงินเพื่อประสบการณ์ของผู้ใช้ที่ราบรื่นกว่า
ไม่ได้ โหมดออฟไลน์ไม่สามารถใช้ร่วมกับ Tap to Pay ได้
ไม่มี เราไม่มีฟังก์ชันในการจำกัดบัตรต่างๆ ในระดับของ Tap to Pay
จำเป็น ดู Stripe Docs ได้ที่นี่
หากคุณกำลังใช้พารามิเตอร์ on_behalf_of ใน PaymentIntent โปรดอย่าลืมระบุ ID บัญชีที่เชื่อมโยงลงใน SCPLocalMobileConnectionConfiguration หากต้องการรายละเอียดทั้งหมด โปรดดู Stripe Docs สำหรับ iOS หรือ Android
ไม่ได้ คุณไม่สามารถปรับแต่ง UI สำหรับ Tap to Pay on Android หรือ Tap to Pay on iOS ได้ในขณะนี้
Stripe จะเป็นฝ่ายที่จัดการกับ UI การทำธุรกรรมสำหรับ Tap to Pay on Android เมื่อเชื่อมต่อโทรศัพท์เพื่อใช้เป็นเครื่องอ่านบัตรเป็นครั้งแรก ผู้ใช้จะเห็นหน้าจอ "ค่าเริ่มต้น" ของ Stripe จากนั้นระบบจะปรับแต่งหน้าต่างพร้อมท์ของพื้นที่สำหรับแตะให้เข้ากับตำแหน่งของชิป NFC บนอุปกรณ์ (เช่น ด้านบนขวา ด้านบนซ้าย ตรงกลาง) สำหรับธุรกรรมในครั้งถัดๆ ไป หากไม่ทราบพื้นที่สำหรับแตะ ระบบจะใช้หน้าจอตามค่าเริ่มต้น คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อการทำงานเพื่อปรับแต่งพื้นที่สำหรับแตะ
เมื่อผู้ใช้ได้เชื่อมต่อการทำงานแบบมาตรฐานกับ SDK สำหรับ Android หรือ iOS ของ Terminal แล้ว การเชื่อมต่อการทำงานครั้งถัดไปสำหรับ Tap to Pay on iOS หรือ Tap to Pay on Android จะเรียบง่ายและไม่ซับซ้อน ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้ววิศวกร 1 คนจะใช้เวลาดำเนินการไม่เกิน 2 สัปดาห์
สำหรับคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Tap to Pay on iPhone โปรดดู คำถามที่พบบ่อยจากผู้ค้าที่ใช้ Apple
ผู้ใช้จะได้อ่านข้อกำหนดและเงื่อนไขสำหรับ Tap to Pay on iPhone ของ Apple ในครั้งแรกที่เชื่อมต่อกับเครื่องอ่านบัตรในระบบ หากต้องการลงทะเบียนด้วยบัญชี Apple ผู้ค้าจะต้องระบุ Apple ID ที่ใช้ได้ซึ่งแสดงถึงธุรกิจของตนก่อนทำการยอมรับข้อกำหนดของ Apple โปรดทราบว่าบัญชี Stripe แต่ละบัญชีจะต้องทำขั้นตอนนี้เพียงครั้งเดียว ระบบจะข้ามขั้นตอนนี้ในการเชื่อมต่อครั้งถัดๆ ไปทั้งหมดในทุกอุปกรณ์ที่ใช้บัญชี Stripe เดียวกันนี้
หากต้องการดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเชื่อมโยงผู้ค้า โปรดไปที่ส่วนข้อมูลธุรกิจของ Tap to Pay on iPhone ในคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Tap to Pay on iPhone ของ Apple
คุณจะต้องกำหนดค่าอุปกรณ์ให้เหมาะสมก่อน จึงจะเริ่มใช้อุปกรณ์ในการอ่านบัตรได้ โดยคุณจะต้องทำการตั้งค่านี้ในทุกอุปกรณ์ที่ใช้ Tap to Pay on iPhone เป็นครั้งแรก การกำหนดค่าอุปกรณ์ในครั้งแรกอาจใช้เวลานานถึง 2 นาที โดยทั่วไปแล้ว การอัปเดตการกำหนดค่าครั้งถัดๆ ไปจะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ส่วน "จัดการการตั้งค่าอุปกรณ์"
ข้อกำหนดการให้บริการของ Tap to Pay on iPhone จะปรากฏขึ้นโดยอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่อเครื่องอ่านบัตรในระบบเป็นครั้งแรกสำหรับบัญชีหนึ่งๆ ขั้นตอนนี้ได้รับการจัดการโดย Terminal SDK และการทริกเกอร์ขั้นตอนเกี่ยวกับข้อกำหนดการให้บริการนี้ก็ไม่จำเป็นต้องใช้โค้ดเพิ่มเติม
ข้อกำหนดการให้บริการของ Tap to Pay on iPhone จะปรากฏขึ้นใน connectLocalMobileReader ครั้งแรกสำหรับบัญชีย่อย Connect ที่กำหนด เมื่อยอมรับข้อกำหนดการให้บริการแล้ว ข้อกำหนดดังกล่าวจะไม่ปรากฏขึ้นในบัญชีนั้นอีก
เราขอแนะนำให้ผู้ค้ามอบคำแนะนำให้แก่ผู้ใช้ขณะที่ผู้ใช้อยู่ในช่วงเริ่มต้นใช้งาน เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ค้าที่ได้รับการอนุญาตจะยอมรับข้อกำหนด
ผู้ค้าสามารถตั้งค่าพารามิเตอร์ tosAcceptancePermitted ให้เป็น NO ได้ใน connectionConfig เมื่อเรียกใช้งาน connectLocalMobileReader ในเบื้องหลัง หากผู้ใช้ยังไม่ได้ยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข (ToS) การเชื่อมต่อนี้จะแสดงผลว่าไม่สำเร็จโดยมีข้อยกเว้น เราขอแนะนำให้ผู้ค้าจัดการกับข้อยกเว้นนี้ และนำผู้ใช้ไปยังขั้นตอนกระบวนการเริ่มต้นใช้งานที่แยกกันชัดเจน ซึ่งระบบจะเรียกใช้งาน connectLocalMobileReader โดยเปิดใช้งานพารามิเตอร์ และผู้ค้าที่ได้รับอนุญาตจะสามารถยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไข (ToS) ได้
แพลตฟอร์มสามารถกำหนดชื่อธุรกิจได้ที่นี่ เราจะใช้ชื่อของบัญชี Connect เป็นชื่อเริ่มต้น แต่คุณสามารถแทนที่ชื่อนั้นได้ หากต้องการ ทั้งนี้ ควรตรวจสอบว่าได้ระบุชื่อธุรกิจที่ถูกต้องแล้ว
ขณะนี้เรายังไม่รองรับการใช้ proximityReader API ของ Apple โดยตรง การใช้ proximityReader อย่างเหมาะสมจำเป็นต้องอาศัยการทำงานโดยตรงกับ Apple เพื่อให้สามารถออกโทเค็นการเชื่อมต่อเครื่องอ่านบัตรได้
ไม่มี เนื่องจาก UI ของ Tap to Pay on iPhone จะทริกเกอร์เมื่อแอปพลิเคชันระบบบันทึกการขายของคุณพร้อมรับชำระเงิน และไม่สามารถปรับแต่งเองได้
เครื่องอ่านบัตรฮาร์ดแวร์ Terminal ทุกเครื่องจำเป็นต้องตั้งค่าตำแหน่งที่ตั้ง ข้อกำหนดนี้เป็นข้อกำหนดที่มีอยู่ก่อนแล้วซึ่งก็มีผลกับ Tap to Pay on iPhone ด้วยเช่นกัน
แอปพลิเคชัน Tap to Pay on iPhone ของคุณจะผ่านกระบวนการตรวจสอบมาตรฐานใน App Store ของ Apple ดังนั้น ขณะที่สร้างแอป อย่าลืมคำนึงถึงแนวทางเกี่ยวกับอินเทอร์เฟซที่เหมาะกับผู้ใช้ Tap to Pay ของ Apple
คุณสามารถขอสิทธิ์โดยตรงได้จากเว็บไซต์นักพัฒนาของ Apple ที่นี่
คุณสามารถยืนยันว่าอุปกรณ์ Android ของคุณรองรับ NFC หรือไม่ได้โดยตรวจสอบที่การตั้งค่าของโทรศัพท์ หากคุณพบตัวเลือก NFC แสดงว่าโทรศัพท์ของคุณรองรับ และโปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เปิดใช้งานเพื่อใช้ Tap to Pay แล้ว
ขณะนี้เรายังไม่มีกำหนดการที่จะรองรับ Discover
โปรดสมัครรับข้อมูลจาก terminal-announce@lists.stripe.com เราตั้งเป้าที่จะแจ้งการเปลี่ยนแปลงในอนาคตให้ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 3 เดือน แต่ในกรณีที่เร่งด่วนมากกว่า ก็อาจจำเป็นต้องมีการอัปเดต SDK หากพบว่า SDK มีช่องโหว่ด้านการรักษาความปลอดภัยที่ร้ายแรง
นอกจากนี้ Tap to Pay on Android ยังมีบันทึกการเปลี่ยนแปลงสาธารณะด้วย
ผู้ใช้สามารถรับการสนับสนุนสำหรับปัญหาที่เกี่ยวกับ Apple ได้จากแหล่งข้อมูลต่อไปนี้