คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดึงเงินคืนจากการหักบัญชีอัตโนมัติแบบ SEPA

ข้อมูลที่อัปเดต:

ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2022 เราได้ปรับปรุงมาตรการลดการดึงเงินคืนของ SEPA DD เพิ่มเติมสำหรับผู้ค้า

ขณะนี้เราใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่รวบรวมจากบริการต่างๆ ของเราเพื่อตรวจจับธุรกรรมที่มีความเสี่ยงด้วยความแม่นยำที่สูงขึ้น เพื่อลดธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกง อัตราการดึงเงินคืน และค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชำระเงิน ข้อมูลที่เราใช้ประกอบด้วยประวัติการชำระเงินและธุรกรรมของ IBAN, ผู้ค้า และลูกค้าปลายทางในเครือข่าย Stripe เราใช้ข้อมูลนี้เพื่อให้คะแนนแต่ละธุรกรรมโดยอิงตามแนวโน้มที่จะนำไปสู่การดึงเงินคืน (ซึ่งรวมถึงการโต้แย้งการชำระเงินของลูกค้า การชำระเงินไม่สำเร็จ และการฉ้อโกง) จากนั้นเราจะบล็อกธุรกรรมที่มีคะแนนความเสี่ยงสูง หากต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูนโยบายความเป็นส่วนตัวของเรา


ข้อมูลเดิม:

นับตั้งแต่วันที่ 7 มีนาคม 2022 เป็นต้นไป เราจะปรับเปลี่ยนมาตรการที่ใช้กับ IBAN ซึ่งมีการโต้แย้งการชำระเงินติดกันมากกว่า 3 ครั้ง หรือมีรหัสข้อผิดพลาดที่เฉพาะเจาะจง ทั้งนี้เพื่อปกป้องผู้ค้าของ Stripe จากการดึงเงินคืน

การเปลี่ยนแปลงใหม่มีอะไรบ้าง

ในกรณีที่ IBAN มีการโต้แย้งการชำระเงิน 3 ครั้งติดต่อกันไม่ว่าด้วยรหัสเหตุผลใดก็ตาม หรือมีการโต้แย้งการชำระเงินอย่างน้อย 1 ครั้งด้วยรหัสเหตุผลที่เฉพาะเจาะจง เราจะระงับ IBAN ดังกล่าวเป็นเวลา 90 วัน ซึ่งจะเป็นการบล็อกการชำระเงินที่ทำรายการในครั้งต่อๆ ไปโดยใช้ IBAN ดังกล่าวตลอดช่วงที่ระงับ

รหัสสาเหตุที่เฉพาะเจาะจง มีดังนี้

คุณสามารถดูรายการรหัสเหตุผลสำหรับการโต้แย้งการชำระเงินทั้งหมดได้ที่เว็บไซต์ของ European Payments Council

ระบบจะแสดงอะไรให้ผู้ใช้เห็นบ้างเมื่อมีการบล็อกการชำระเงิน

เมื่อการชำระเงินถูกบล็อก คุณจะเห็นข้อความแสดงข้อผิดพลาดดังต่อไปนี้

การชำระเงินถูกบล็อกเนื่องจากมีแนวโน้มถูกดึงเงินคืนสูง ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ https://support.stripe.com/questions/sepa-debit-chargebacks-faq

การชำระเงินจะถูกบล็อกเนื่องจากสาเหตุใด

เราสังเกตเห็นว่าเมื่อมีการทำรายการแล้วพบเจอรหัสเหตุผลเหล่านี้หรือดำเนินการไม่สำเร็จติดต่อกัน การพยายามทำรายการครั้งต่อๆ ไปก็มักจะไม่สำเร็จอีก ดังนั้น การบล็อกการทำรายการดังที่ว่าก็จะช่วยลดอัตราการดึงเงินคืนและปกป้องผู้ค้าจากการจ่ายค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชำระเงิน