ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการฉ้อโกงและการโต้แย้งการชำระเงินในเม็กซิโก

Stripe เป็นผู้ประมวลผลการชำระเงิน

Stripe เป็นผู้ประมวลผลการชำระเงิน ไม่ใช่กระเป๋าเงินดิจิทัล เมื่อเลือกผู้ประมวลผลการชำระเงิน คุณจะต้องรับผิดชอบในการป้องกันการฉ้อโกง การเรียกเก็บเงินที่คุณยอมรับ และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการฉ้อโกง คุณต้องประเมินความเสี่ยงของการชำระเงินแต่ละรายการที่ธุรกิจของคุณรับชำระ

ในแง่ของการป้องกันการฉ้อโกงและการโต้แย้งการชำระเงิน การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลนั้นจะสามารถระบุตัวผู้ซื้อได้ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดการฉ้อโกงน้อยกว่าและการโต้แย้งการชำระเงินที่เกิดจากปัญหาด้านการฉ้อโกงก็จะน้อยลงไปด้วย การประมวลผลการชำระเงินไม่เหมือนกับระบบป้องกันการฉ้อโกงโดยเฉพาะ แม้ว่าเราจะมีเครื่องมือป้องกันการฉ้อโกงและพยายามจะขจัดธุรกรรมที่มีความเสี่ยงโดยไม่ปิดกั้นการเรียกเก็บเงินที่ชอบด้วยกฎหมาย แต่ก็ไม่มีอัลกอรึทึมใดที่มีประสิทธิภาพเท่าการตรวจสอบคำสั่งซื้อด้วยตัวผู้ค้าเอง

กล่าวคือหากคุณเลือกใช้ Stripe ให้ประมวลผลการเรียกเก็บเงิน คุณจะต้องรับผิดชอบการเรียกเก็บเงินที่คุณเลือกยอมรับและค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการฉ้อโกง ดังนั้นคุณต้องประเมินความเสี่ยงของการชำระเงินแต่ละรายการที่ธุรกิจของคุณรับชำระ Stripe จะไม่สามารถรับประกันได้ว่าการชำระเงินใดๆ จะไม่เป็นการฉ้อโกง เราทำได้เพียงยืนยันว่าการเรียกเก็บเงินสำเร็จหรือไม่เท่านั้น ซึ่งไม่ได้รับประกันว่าการเรียกเก็บเงินนั้นชอบด้วยกฎหมาย ประเภทของการโจมตีด้วยการฉ้อโกงจะขึ้นอยู่กับประเภทของธุรกิจ เพราะฉะนั้นเจ้าของธุรกิจจะต้องตระหนักถึงการชำระเงินที่น่าสงสัยและจัดการปกป้องบัญชี Stripe ของตน

หากคุณคิดว่ามีการเรียกเก็บเงินที่อาจเป็นการฉ้อโกง โปรดทราบว่าโดยทั่วไปแล้วเราจะแนะนำให้ผู้ใช้คืนเงินสำหรับการชำระเงินที่ดูน่าสงสัยก่อนที่การชำระเงินนั้นจะกลายเป็นการโต้แย้งการชำระเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการเข้าสู่กระบวนการโต้แย้งการชำระเงินอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ พึงระลึกเสมอว่าเมื่อคุณดำเนินการคืนเงินให้ลูกค้า Stripe จะไม่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมแต่จะเก็บค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมแรกเริ่มเอาไว้

คุณสามารถดูตัวบ่งชี้การฉ้อโกงประเภทต่างๆ ที่พบบ่อยได้ในลิงก์ต่อไปนี้เพื่อเริ่มการป้องกัน

https://stripe.com/docs/disputes/prevention/identifying-fraud#common-types-of-fraud-indicators


ทำความเข้าใจขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงิน

การโต้แย้งการชำระเงินคืออะไร

หากเว็บไซต์หรือร้านค้าของคุณรับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต คุณอาจจำเป็นต้องจัดการกับการดึงเงินคืนหรือการสอบถามข้อมูล เมื่อลูกค้าพบปัญหาเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิต ลูกค้าสามารถโต้แย้งการชำระเงินกับธนาคารของลูกค้าได้ ซึ่งธนาคารจะเริ่มขั้นตอนโต้แย้งการชำระเงินด้วยการสอบถามข้อมูลหรือการดึงเงินคืน

เมื่อลูกค้าโต้แย้งการชำระเงิน ธนาคารจะหักเงินทั้งส่วนที่มีการชำระและส่วนการโต้แย้งการชำระเงินออกจากยอดคงเหลือ Stripe ของคุณ Stripe จะไม่ต้องรับผิดค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชำระเงิน และเงินจำนวนนี้จะส่งคืนไปยังยอดคงเหลือของคุณก็ต่อเมื่อคุณคัดด้านการโต้แย้งการชำระเงินสำเร็จ โดยสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือคุณจะต้องส่งหลักฐานภายในระยะเวลาที่กำหนดเมื่อคุณได้รับการโต้แย้งการชำระเงิน ไม่ว่าจะเป็นการโต้แย้งการชำระเงินประเภทใดก็ตาม

คุณสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมและขั้นตอนของการโต้แย้งการชำระเงินได้ที่

https://stripe.com/docs/disputes/how-disputes-work

ฉันจะดูการโต้แย้งการชำระเงินของฉันในแดชบอร์ดได้ที่ไหน

คุณสามารถดูการโต้แย้งการชำระเงินทั้งหมดได้ที่แดชบอร์ดของคุณใต้ส่วน การชำระเงิน > การโต้แย้งการชำระเงิน หรือลิงค์ต่อไปนี้

https://dashboard.stripe.com/disputes

การโต้แย้งการชำระเงินในเม็กซิโกมีขั้นตอนอย่างไร

การโต้แย้งการชำระเงินมีขั้นตอนดำเนินการที่แตกต่างกันไปตามเครือข่ายบัตรและเครือข่ายการชำระเงิน แต่โดยปกติแล้วมักมีรูปแบบคล้ายกัน ขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงินจะเกี่ยวข้องกับหลายฝ่ายและมีหลายขั้นตอน

กฎการโต้แย้งการชำระเงินของบัตร Visa และ Mastercard จะไม่มีผลบังคับใช้ในเม็กซิโก (มีผลเฉพาะการชำระเงินระหว่างประเทศ) ซึ่งแตกต่างจากประเทศอื่นๆ โดยธนาคารกลางเม็กซิโกและหน่วยงาน CNBV ได้ตั้งกฎเหล่านี้ขึ้นมาแทน ซึ่งให้อำนาจแก่สถาบันผู้รับบัตรและบริษัทผู้ออกบัตรในเม็กซิโกเป็นผู้บังคับใช้ ส่งผลให้คาดการณ์ขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงินได้ไม่มากเท่าในประเทศอื่น ซึ่งทำให้การโต้แย้งการชำระเงินในเม็กซิโกสำเร็จได้ยากกว่า

การฉ้อโกงเป็นสิ่งที่พบได้บ่อยมากในเม็กซิโกและมีความเสี่ยงสูงต่อผู้ค้าที่เพิ่งเริ่มใช้งานการชำระเงินออนไลน์ ปัจจัยนี้สำคัญมากสำหรับธุรกิจในกลุ่มเสี่ยงสูง ซึ่งควรให้ความสนใจกับวิธีการป้องกันการฉ้อโกงมากเป็นพิเศษ กลุ่มธุรกิจนี้โดยทั่วไปมักเป็นธุรกิจในด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ แฟชั่น อัญมณี (อะไรก็ตามที่มีมูลค่าในการขายต่อสูงมักตกเป็นเป้าหมายของการฉ้อโกง)

ด้วยเหตุนี้เราจึงแนะนำให้ผู้ค้าในเม็กซิโกลงทุนกับการป้องกันการฉ้อโกงและการโต้แย้งการชำระเงินโดยปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดของเรา ดังต่อไปนี้

https://support.stripe.com/questions/checklist-to-prevent-disputes-and-fraud-in-mexico

วงจรการทำงานของการโต้แย้งการชำระเงินและความสำคัญของการส่งหลักฐาน

เมื่อเจ้าของบัตรส่งเรื่องโต้แย้งการชำระเงิน ธนาคารจะแจ้ง Stripe ให้ทราบและหักเงินตามจำนวนที่มีการโต้แย้งบวกกับค่าธรรมเนียม MXN ของธนาคารอีก 150.00 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับการจัดการกรณีโต้แย้งดังกล่าวตามที่เราจำเป็นต้องดำเนินการตามกฎหมาย Stripe ไม่ต้องรับผิดชอบค่าธรรมเนียมสำหรับการโต้แย้งการชำระเงินและการดึงเงินคืน ธนาคารจะเป็นผู้หักค่าธรรมเนียมนี้และจะคืนให้ผู้ค้าในกรณีที่ผู้ค้าคัดค้านการโต้แย้งการชำระเงินสำเร็จในนามของตนเท่านั้น เงินจำนวนนี้จะถูกหักออกจากยอดคงเหลือและเงินทุนของคุณแล้วส่งต่อไปยังธนาคาร ซึ่งจะเก็บไว้จนกว่าปัญหาดังกล่าวจะได้รับการแก้ไข

เมื่อมีการดึงเงินคืนแล้ว คุณจะมีเวลาจำกัด (โดยปกติคือ 7-21 วัน) เพื่อตอบกลับพร้อมแนบหลักฐานว่าการเรียกเก็บเงินดังกล่าวนั้นถูกต้อง เวลาที่กำหนดให้ตอบกลับจะแตกต่างกันไปตามเครือข่ายบัตร หากคุณไม่ได้ส่งหลักฐานภายในเวลาที่กำหนด ธนาคารจะถือว่าเจ้าของบัตรโต้แย้งการชำระเงินสำเร็จและจะได้รับเงินคืน ด้วยเหตุนี้ การที่คุณส่งหลักฐานภายในระยะเวลาที่กำหนดเมื่อคุณได้รับการโต้แย้งการชำระเงินจึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง

การส่งหลักฐานประกอบการโต้แย้งการชำระเงิน

ที่ Stripe เราพยายามอย่างเต็มที่ในการช่วยคุณส่งหลักฐานประกอบการโต้แย้งการชำระเงินและให้คำแนะนำแก่ผู้ใช้เกี่ยวกับวิธีการรับมือหรือยอมรับการโต้แย้งการชำระเงิน หน้าที่ของเราคือช่วยเหลือคุณในขั้นตอนการส่งหลักฐานและแจ้งเตือนความคืบหน้าให้ธนาคารทราบ คุณควรทราบว่าธนาคารเจ้าของบัตรจะเป็นผู้จัดการขั้นตอนการโต้แย้งการชำระเงินแต่เพียงผู้เดียว และ Stripe ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจว่าการโต้แย้งการชำระเงินนั้นถูกต้องหรือไม่

หากคุณส่งหลักฐาน ระบบจะส่งหลักฐานดังกล่าวไปยังธนาคารเจ้าของบัตรซึ่งจะมีเวลาที่จำกัดสำหรับการตอบกลับ (โดยปกติคือ 60-75 วัน) โดยจะแตกต่างกันไปตามเครือข่ายบัตร ทั้งนี้ Stripe จะอัปเดตสถานะของการโต้แย้งการชำระเงินทันทีที่มีการตอบกลับจากธนาคาร อย่างไรก็ตามเรามักจะได้รับการตอบกลับจากธนาคารเมื่อพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวไปแล้ว คำตัดสินจากธนาคารเจ้าของบัตรคือขั้นตอนสุดท้ายของการโต้แย้งการชำระเงิน

กล่าวคือ หากธนาคารตัดสินให้เจ้าของบัตรชนะการโต้แย้งการชำระเงินหรือหากไม่มีการแสดงหลักฐาน เจ้าของบัตรจะได้รับเงินตามจำนวนที่มีการโต้แย้งการชำระเงินและธนาคารของพวกเขาจะได้เก็บค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชำระเงินไว้ หากคุณคัดค้านการโต้แย้งการชำระเงินสำเร็จ ระบบจะคืนเงินตามจำนวนที่มีการโต้แย้งรวมถึงคืนค่าธรรมเนียมการโต้แย้งการชำระเงินไปยังยอดคงเหลือ Stripe ของคุณ

หมายเหตุ: ธนาคารจะตรวจสอบหลักฐานเพียงครั้งเดียว คุณจึงสามารถส่งหลักฐานได้เพียง 1 ครั้งเท่านั้น คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหลักฐานของคุณครบถ้วนสมบูรณ์และมีข้อมูลที่เพียงพอก่อนการส่ง

Screenshot 2021-04-09 at 10.28.26.png

ดูคู่มือวิธีการรับมือการโต้แย้งการชำระเงินฉบับเต็มได้ที่

https://support.stripe.com/questions/responding-to-disputes-video-guide


ทำความเข้าใจการฉ้อโกง

การระบุการฉ้อโกงทั่วไป

มีตัวบ่งชี้การฉ้อโกงอยู่หลายประเภท ซึ่งบางประเภทนั้นสามารถระบุได้โดยง่าย เช่น หมายเลขโทรศัพท์หรือที่อยู่อีเมลปลอม และยังมีประเภทอื่นๆ ที่อาจดูไม่ชอบมาพากลและตรวจสอบได้ยาก เช่น การสนทนากับลูกค้าที่ดูเหมือนไม่มีตัวตนอยู่จริง การเข้าใจในวิธีการต่างๆ ที่มิจฉาชีพใช้ข้อมูลเท็จเพื่อสร้างธุรกรรมที่เป็นการฉ้อโกงจะช่วยปกป้องคุณจากบุคคลเหล่านี้ได้ดียิ่งขึ้น

ดูข้อมูลเกี่ยวกับประเภทการฉ้อโกงที่พบเจอบ่อยและวิธีการระบุการฉ้อโกงได้ที่

https://stripe.com/docs/disputes/prevention/identifying-fraud (รองรับภาษาสเปน)

การทดสอบบัตร

การทดสอบบัตรเป็นกิจกรรมการฉ้อโกงประเภทหนึ่งที่มีบุคคลพยายามตรวจสอบว่าข้อมูลบัตรที่ถูกขโมยมานั้นสามารถนำไปใช้เพื่อซื้อสินค้าและบริการได้หรือไม่ โดยการทดสอบบัตรจะมีชื่อเรียกอื่นๆ ด้วย ได้แก่ "การใช้บัตร" "การทดสอบบัญชี" และ "การตรวจสอบบัตร" กิจกรรมการฉ้อโกงเช่นการทดสอบบัตรเป็นส่วนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการค้าทางออนไลน์ ที่ Stripe เราพัฒนาเครื่องมือและระบบของเราอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจหาและลดโอกาสในการฉ้อโกง อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องระวังเกี่ยวกับการฉ้อโกงอยู่เสมอ

คุณจะระบุการโจมตีจากการทดสอบบัตรบนเว็บไซต์ได้จากสัญญาณต่างๆ ดังนี้

Stripe มีเครื่องมือควบคุมทั้งแบบอัตโนมัติและแบบดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่สำหรับการลดจำนวนการทดสอบบัตร รวมถึงตัวจำกัดอัตรา การแจ้งเตือน การตรวจสอบอย่างต่อเนื่อง และอีกมากมาย อย่างไรก็ตาม มาตรการเหล่านี้เพียงอย่างเดียวไม่สามารถป้องกันการทดสอบบัตรทั้งหมดได้ แต่หากมีการตรวจสอบปัญหานี้อย่างต่อเนื่องจะทำให้ผู้คนที่ต้องการฉ้อโกงคุณดำเนินการได้ยากลำบากขึ้นเป็นอย่างมาก

เพื่อรับมือกับการทดสอบบัตร เราขอแนะนำให้คุณเพิ่มการดำเนินการในขั้นตอนการชำระเงินเพื่อให้ผู้ที่ต้องการทดสอบบัตรดำเนินการชำระเงินได้ยากยิ่งขึ้น แม้เราจะทราบว่าการดำเนินการนี้จะเพิ่มความยุ่งยากให้กับการชำระเงินของลูกค้าตามปกติเช่นกัน แต่เราจำเป็นต้องแก้ไขกิจกรรมการฉ้อโกงในบัญชีของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าการประมวลผลจะเป็นไปตามปกติอยู่เสมอ

เราขอแนะนำให้ปรับใช้การลดผลกระทบอื่นๆ ที่คุณเห็นว่าเหมาะสมเช่นกันเพื่อป้องกันการทดสอบบัตรในอนาคต ดูคำแนะนำเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์ต่อไปนี้

https://stripe.com/docs/card-testing


การปกป้องบัญชีของคุณจากการฉ้อโกงและการโต้แย้งการชำระเงิน

วิธีที่ดีที่สุดในการจัดการการโต้แย้งการชำระเงินคือการป้องกันไม่ให้เกิดการโต้แย้งการชำระเงินขึ้น กลยุทธ์การป้องกันการโต้แย้งการชำระเงินและการฉ้อโกงที่มีประสิทธิภาพคือการใช้วิธีการที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณที่สุดไปพร้อมกับลดภาระของลูกค้าและการสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด

เราขอแนะนำให้คุณอ่านแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดสำหรับป้องกันการโต้แย้งการชำระเงินที่ด้านล่าง แต่หากคุณต้องการจะติดต่อทีมสนับสนุนของเราเพื่อสอบถามข้อสงสัยก็ทำได้เช่นกัน

ตัวอย่างมาตรการที่คุณใช้ได้เพื่อลดโอกาสเกิดการโต้แย้งการชำระเงิน มีดังนี้

เก็บรวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุดในระหว่างขั้นตอนการชำระเงินในเว็บไซต์ของคุณ

เมื่อข้อมูลที่เก็บรวบรวมจากลูกค้าในระหว่างขั้นตอนการชำระเงินมีมากขึ้น ประสิทธิภาพในการยืนยันลูกค้าและการชำระเงินของ Stripe หรือบริษัทผู้ออกบัตรก็จะมากขึ้นเช่นกัน

ตัวอย่างข้อมูลเหล่านี้ได้แก่

การติดต่อกับลูกค้าที่ชัดเจนและบ่อยครั้งจะช่วยป้องกันหลายๆ สาเหตุที่ก่อให้เกิดการโต้แย้งการชำระเงินได้

แสดงข้อมูลติดต่อของฝ่ายบริการลูกค้าของคุณให้ง่ายต่อการค้นหา คอยแจ้งให้ลูกค้าทราบข้อมูลล่าสุดตลอดขั้นตอนการสั่งซื้อ และคอยอัปเดตสถานะการจัดส่ง ตัวอย่างแนวทางปฏิบัติที่ดีได้แก่

หากคุณกำลังประสบปัญหาการฉ้อโกงที่เพิ่มขึ้นจากบางประเทศ

คุณมีสิทธิ์ตั้งค่ากฎเพื่อบล็อกการชำระเงินจากประเทศที่คุณไม่ต้องการรับชำระเงินได้โดยใช้แอตทริบิวต์กฎ :ip_country: และ :card_country:

เลื่อนการจัดส่งคำสั่งซื้อ

หากคุณจัดส่งสินค้าที่จับต้องได้ ให้เลื่อนการจัดส่งสินค้าออกไป 24-48 ชั่วโมง ช่วงเวลาที่เลื่อนออกไปนี้จะทำให้เจ้าของบัตรมีโอกาสในการตรวจสอบการฉ้อโกงที่เกิดขึ้นกับบัญชีของตนได้ อย่างไรก็ตาม เจ้าของบัตรบางรายไม่ได้ตรวจสอบรายการเดินบัญชีของตนทุกวัน และบริษัทผู้ออกบัตรอาจไม่ได้ติดต่อเจ้าของบัตรเพื่อแจ้งเกี่ยวกับธุรกรรมดังกล่าว

ใช้ 3DS

การใช้ 3D Secure จะเป็นการแจ้งเตือนให้ลูกค้าดำเนินการตามขั้นตอนตรวจสอบสิทธิ์เพิ่มเติมก่อนเสร็จสิ้นขั้นตอนการสั่งซื้อ หากใช้ 3D Secure เพื่อตรวจสอบสิทธิ์การชำระเงิน ผู้รับผิดการโต้แย้งการชำระเงินใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงสำหรับการชำระเงินนั้นจะเปลี่ยนจากผู้ค้าเป็นบริษัทผู้ออกบัตร ซึ่งหมายความว่าในกรณีส่วนใหญ่แล้ว ผู้ค้าจะไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับการฉ้อโกงของการชำระเงินที่ได้รับการตรวจสอบสิทธิ์ด้วย 3D Secure

3DS พร้อมให้ใช้งานแล้วกับผู้ค้าทุกรายในเม็กซิโก ดูขั้นตอนการติดตั้งได้ที่

https://stripe.com/docs/payments/3d-secure#incorporating-3ds

สิ่งหนึ่งที่ควรทราบคือธนาคารผู้ออกบัตรจะเป็นผู้ควบคุมประสบการณ์การใช้งาน 3DS ของผู้ซื้อ และประสบการณ์ดังกล่าวอาจมีอัตราการเปลี่ยนมาเป็นลูกค้าที่คาดการณ์แตกต่างกันไปหลายระดับ ธนาคารบางแห่งจะมีประสิทธิภาพการดำเนินการที่ดีกว่าธนาคารอื่นๆ แต่การทริกเกอร์ 3DS กับการชำระเงินทุกครั้งอาจส่งผลกระทบแง่ลบต่อการเปลี่ยนเป็นลูกค้าได้ และเนื่องจากผู้ใช้จะเข้าใจธุรกิจและความเสี่ยงของตนดีที่สุด ดังนั้นการคิดหาวิธีรักษาความสมดุลระหว่างการป้องกันการฉ้อโกงและการมอบประสบการณ์การชำระเงินที่ดีจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่า

พิจารณาซื้อ Radar for Fraud Teams ซึ่งจะทำให้คุณสามารถสร้างกฎแบบกำหนดเองที่จะทริกเกอร์ 3DS สำหรับการซื้อที่ตรงตามเกณฑ์ เช่น ธุรกรรมที่มีความเสี่ยงสูง กฎสำหรับทริกเกอร์ 3DS ช่วยให้คุณดำเนินงานได้สะดวกยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับการผสานการทำงานด้วย ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://stripe.com/docs/payments/3d-secure#three-ds-radar

3DS จะป้องกันและเพิ่มโอกาสสำเร็จในการคัดค้านการโต้แย้งการชำระเงิน อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ต้องใช้เพื่อยืนยันด้วย 3DS ให้เสร็จสิ้นนั้นถือเป็นอุปสรรคหนึ่งในเม็กซิโก แม้กระนั้น ผู้ใช้มากมายในเม็กซิโกต่างก็เห็นผลลัพธ์ที่ดีในด้านการป้องกันการฉ้อโกงจากการเปิดใช้งาน 3DS

คุณควรทราบว่า ขณะนี้เรายังไม่สามารถทริกเกอร์กฎ 3DS2 โดยไม่ใช้ Payment Intents API หรือ Checkout เวอร์ชันใหม่ได้

Radar for Fraud Teams

Radar for Fraud Teams เป็นเครื่องมือขั้นสูงของ Stripe ซึ่งใช้สำหรับตรวจจับการฉ้อโกงและเป็นชุดเครื่องมือเสริมสำหรับธุรกิจที่กำลังเจอความเสี่ยงระดับสูง วิดีโอนี้จะสาธิตการใช้งาน Radar for Fraud Teams ในแดชบอร์ด Stripe

คะแนนความเสี่ยงจาก Radar for Fraud Teams มีตั้งแต่ 0 ถึง 100 ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อกำหนดค่ากฎที่ธุรกรรมต่างๆ จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบโดยเจ้าหน้าที่เมื่อมีเกณฑ์ความเสี่ยงเกินค่าที่กำหนด เช่น 50

ดูวิธีการตั้งกฎของ Rader ได้ที่ https://stripe.com/docs/radar/rules