เราจำเป็นต้องยืนยันเจ้าของที่ได้รับประโยชน์สูงสุดของธุรกิจของคุณ โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการยืนยันในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์ ทั้งนี้ เจ้าของที่ได้รับประโยชน์สูงสุดอาจรวมถึงเจ้าของจากบริษัทผู้ถือหุ้นหากธุรกิจของคุณมีองค์กรอื่นเป็นเจ้าของบางส่วนหรือทั้งหมด
บุคคลทั่วไปรายใดก็ตามที่เป็นเจ้าของหุ้นของธุรกิจ 25% ขึ้นไปจะต้องถูกเพิ่มลงในบัญชี Stripe ในฐานะเจ้าของ และต้องแสดงเอกสารสำหรับยืนยันด้วย หากบริษัทผู้ถือหุ้นมีส่วนได้เสียในบริษัทของคุณมากกว่า 25% คุณจะต้องอัปโหลดหนังสือจดทะเบียนธุรกิจของบริษัทนั้นๆ พร้อมป้อนข้อมูลของบุคคลใดๆ ที่มีส่วนได้เสียมากกว่า 25% ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อมก็ตาม
หากไม่มีเจ้าของที่ได้รับประโยชน์รายใดที่มีส่วนได้เสียเกิน 25% เราจะต้องตรวจสอบยืนยันเจ้าของธุรกิจที่มีส่วนได้เสียมากกว่าหรือเท่ากับ 10% (ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม)
ตัวอย่าง: บริษัท ตัวอย่างสมมติ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นแห่งหนึ่ง มีส่วนได้เสียในธุรกิจของคุณ 40% และนายมั่งคั่งมีกรรมสิทธิ์ในบริษัท ตัวอย่างสมมติ จำกัด 75% คุณต้องอัปโหลดหลักฐานหนังสือการจดทะเบียนของบริษัทผู้ถือหุ้นดังกล่าวพร้อมกับระบุข้อมูลของนายมั่งคั่งลงในข้อมูลเจ้าของที่ได้รับประโยชน์ของธุรกิจคุณ เนื่องจากนายมั่งคั่งมีกรรมสิทธิ์ในธุรกิจดังกล่าวทางอ้อมมากกว่า 25% หรือกล่าวโดยเจาะจงคือ 30% (75% * 40%)
บุคคลทั่วไปรายใดก็ตามที่เป็นเจ้าของหุ้นของธุรกิจ 25% ขึ้นไปจะต้องถูกเพิ่มลงในบัญชี Stripe ในฐานะเจ้าของ และต้องแสดงเอกสารสำหรับยืนยันด้วย
หากธุรกิจของคุณมีนิติบุคคลอื่นเป็นเจ้าของบางส่วนหรือทั้งหมด คุณควรเพิ่มบุคคลที่เป็นเจ้าของธุรกิจนั้นลงในบัญชี Stripe ของคุณในฐานะเจ้าของ หากท้ายที่สุดแล้วบุคคลดังกล่าวเป็นเจ้าของหุ้นของธุรกิจตั้งแต่ 25% ขึ้นไป เจ้าของเหล่านี้อาจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกิจของคุณ แต่ยังคงต้องมีชื่ออยู่ในบัญชี Stripe เนื่องจากเป็นเจ้าของที่ได้รับประโยชน์ตามกฎหมาย
คุณต้องอัปโหลดหนังสือบริคณห์สนธิ (หรือเอกสารเทียบเท่า) ของนิติบุคคลทั้งหมดทุกรายที่เป็นเจ้าของหุ้นของธุรกิจคุณตั้งแต่ 25% ขึ้นไปเพื่อการยืนยันด้วยเช่นกัน โดยเอกสารนี้มีความจำเป็นต่อการระบุตัวเจ้าของที่ได้รับประโยชน์ และจำเป็นต้องมีชื่อแสดงอยู่ในบัญชี Stripe