การเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับจากธนาคารกลางอินเดีย (RBI) จะส่งผลให้คุณไม่สามารถรับชำระเงินจากบัตรที่ออกในอินเดียได้อย่างราบรื่น ขั้นตอนการชำระเงินจะมีความยุ่งยากมากขึ้น โดยเครือข่ายบัตรและธนาคารผู้ออกบัตรจะต้องพลิกโฉมระบบและโครงสร้างที่มีอยู่ของตน ขณะที่อุตสาหกรรมกำลังปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ การชำระเงินบางประเภท เช่น การชำระเงินตามรอบ จะมีอัตราการชำระเงินที่ไม่สำเร็จสูงขึ้นนับแต่นี้ไป โดยเป็นผลสืบเนื่องมาจากข้อกำหนดในการอนุมัติที่เพิ่มขึ้น
วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ใช้ Stripe คือ ปฏิบัติตามคู่มือการประเมินผลกระทบของเราและเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ หากจำเป็น
เจ้าของบัตรที่ออกในอินเดียจะต้องอนุญาตให้ผู้ค้าหักจำนวนเงินที่เรียกเก็บตามแบบแผนล่วงหน้าโดยใช้การมอบอำนาจทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ธนาคารผู้ออกบัตรเก็บบันทึกไว้ นอกจากนี้ บริษัทผู้ออกบัตรยังจะแจ้งให้เจ้าของบัตรทราบอย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนจะประมวลผลการเรียกเก็บเงินใดๆ ด้วย เมื่อมีการเรียกเก็บเงินตามรอบในมูลค่าที่มากกว่า 15,000 รูปีอินเดีย (ประมาณ 190 ดอลลาร์สหรัฐ) เจ้าของบัตรจะต้องอนุมัติการชำระเงินเพิ่มเติมเหล่านั้นทีละรายการ นอกจากนี้ เจ้าของบัตรยังสามารถเพิกถอนหนังสือมอบอำนาจอิเล็กทรอนิกส์และเลือกที่จะหยุดการชำระเงินตามรอบให้กับธุรกิจผ่านธนาคารของตนได้ง่ายๆ ทุกเมื่อ
โดยเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็เพื่อมอบอำนาจควบคุมให้เจ้าของบัตรมากขึ้น แต่ก็สร้างความยุ่งยากให้กับขั้นตอนการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าด้วย ซึ่งอาจส่งผลให้ธนาคารผู้ออกบัตรปฏิเสธการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าเพิ่มมากขึ้นได้
การใช้โซลูชัน Billing ของ Stripe เพื่อปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้านั้นเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการเตรียมธุรกิจของคุณให้พร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ อ่านเอกสารประกอบของเราเกี่ยวกับวิธีรับการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้าจากบัตรที่ออกในอินเดีย
เฉพาะบริษัทผู้ออกบัตรและเครือข่ายบัตรเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตให้เก็บข้อมูลของบัตรที่ออกในอินเดียจากธุรกรรมที่ผู้ให้บริการชำระเงินที่ได้รับอนุญาตโดย RBI ทำการประมวลผล ทั้งนี้ RBI กำหนดให้ผู้รวบรวมบริการชำระเงิน (เช่น Stripe India) ใช้โทเค็นจากเครือข่ายในการประมวลผลการชำระเงินแทนหมายเลขจริงของบัตรเครดิต/บัตรเดบิต
ระเบียบข้อบังคับนี้จะส่งผลกระทบต่อธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นในอินเดียเป็นหลัก เครือข่ายบัตรได้เปิดตัวบริการการแปลงเป็นโทเค็นอย่าง Card on File (CoF) เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดเหล่านี้
Stripe ได้พัฒนาโซลูชันที่จะใช้โทเค็นเครือข่ายไว้สำหรับการชำระเงินด้วยบัตรที่ออกในอินเดียแล้ว
หากคุณเป็นผู้ใช้ Stripe ในอินเดีย ควรปฏิบัติดังนี้
สำหรับการขอความยินยอมจากลูกค้า หากคุณไม่ต้องการที่จะสร้างขั้นตอนขอความยินยอมของตนเอง Stripe กำลังเปิดตัว Stripe Managed Tokenization Consent เพื่อเก็บรวบรวมความยินยอมโดยอัตโนมัติในนามลูกค้าของคุณ หากต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดดูที่คำแนะนำสำหรับข้อกำหนดของรัฐบาลอินเดียเกี่ยวกับการแปลงเป็นโทเค็นของเครือข่าย
ใช้ Stripe เป็นแหล่งจัดเก็บข้อมูลบัตรของคุณ ด้วยโซลูชันที่เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับซึ่งเราได้สร้างขึ้นมาร่วมกับเครือข่ายบัตรต่างๆ ทำให้เราสามารถแปลงข้อมูลบัตรเป็นโทเค็น และใช้โทเค็นดังกล่าวในการประมวลผลการชำระเงินแทน ทั้งนี้ บริการของเราครอบคลุมทั้งการชำระเงินแบบครั้งเดียวที่ใช้ข้อมูลบัตรที่บันทึกไว้และการชำระเงินตามแบบแผนล่วงหน้า
เนื่องจากเรากำลังทดสอบและขยายขอบเขตการใช้โซลูชันของเราร่วมกับเครือข่ายบัตรต่างๆ เราจะย้ายข้อมูลบัตรที่คุณต้องการให้เราจัดเก็บไว้ไปยังโทเค็นจากเครือข่ายที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นบัตรที่มีอยู่เดิมหรือบัตรใหม่
ขณะนี้ เรายังไม่เปิดให้คุณขอโทเค็นจากเครือข่ายเพื่อนำไปจัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ของตัวเองผ่าน Stripe หรือที่เรียกว่าบริการแปลงเป็นโทเค็น
ติดต่อเรา หากคุณมีข้อสงสัยใดๆ เกี่ยวกับการแปลงเป็นโทเค็น
ธนาคารกลางอินเดีย (RBI) ได้แจ้งว่าข้อมูลการชำระเงินสำหรับธุรกรรมที่ประมวลผลผ่านผู้ให้บริการชำระเงินหรือคนกลางในอินเดียจะต้องได้รับการจัดเก็บไว้ในฐานข้อมูลและเซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่ในอินเดียเท่านั้น ระเบียบข้อบังคับนี้มีผลกับธุรกรรมที่ประมวลผลโดยผู้ให้บริการและคนกลางในอินเดียทั้งหมด ไม่ว่าจะผ่านบัตรหรือไม่ผ่านบัตร ซึ่งประกอบไปด้วยธุรกรรมในประเทศทั้งหมด (กล่าวคือ ธุรกรรมที่ประมวลผลโดยธุรกิจและเจ้าของบัตรที่อยู่ในอินเดีย) รวมถึงการชำระเงินกับธุรกิจในอินเดียจากผู้ซื้อต่างชาติด้วย
ข้อมูลการชำระเงินประกอบด้วยข้อมูลลูกค้า (เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ อีเมล เป็นต้น) ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนเกี่ยวกับการชำระเงิน (เช่น รายละเอียดบัญชีของลูกค้าและบัญชีของผู้รับประโยชน์) ข้อมูลเข้าสู่ระบบสำหรับการชำระเงิน (เช่น OTP, PIN, รหัสผ่าน เป็นต้น) และข้อมูลธุรกรรม (เช่น ประทับเวลา จำนวนเงิน เป็นต้น)
Stripe ปฏิบัติตามแนวทางเกี่ยวกับการแปลงข้อมูลให้เข้ากับท้องถิ่นของธนาคารกลางอินเดีย (เรียกอีกอย่างว่าแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลการชำระเงิน)
หากคุณจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินสำหรับการทำธุรกรรมในอินเดียไว้ในเซิร์ฟเวอร์ที่ไม่ได้อยู่ในอินเดีย เราแนะนำให้คุณขอคำปรึกษาเพื่อตัดสินใจว่าจะต้องล้างข้อมูลนี้ เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางในการจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินหรือไม่
นอกจากนี้ คุณยังควรขอให้ผู้ให้บริการชำระเงิน/ผู้ให้บริการเรียกเก็บเงิน/ผู้ให้บริการทางการเงินภายนอกที่คุณใช้บริการชี้แจงเกี่ยวกับสถานะการปฏิบัติตามแนวทางจากธนาคารกลางอินเดียของตนด้วย ผู้ให้บริการไม่ควรจัดเก็บข้อมูลการชำระเงินไว้นอกประเทศอินเดีย หากผู้ให้บริการจัดเก็บข้อมูลนี้ไว้นอกประเทศอินเดีย คุณควรหยุดส่งข้อมูลการชำระเงินให้กับผู้ให้บริการรายดังกล่าว
โปรดติดต่อเรา หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเติม หรือตรวจสอบค่าบริการเพื่อเริ่มใช้งานบริการของเราในอินเดีย